แหล่งผลิตน้ำยางที่ใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ที่ทวีปเอเซียตะวันออกเฉียงใต้โดยคิดเป็น 90%ของโลก ส่วน10% จะมาจากทวีปแอฟรีกากลาง ซึ่งพันธุ์ที่ผลิตในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้คือพันธุ์เวียบราซิลเลียนซิส น้ำยางที่กกรีดได้จากต้นจะเป็นน้ำยางสด มีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวในน้ำยางจะมีปริมาณของแข็งผสมอยู่30% น้ำยางมีความหนาแน่น 0.97-0.98 กรัมต่อมิลลิลิตร ความหนืดของน้ำยางประมาณ 12-15 เซนติพอยส์ ส่วนประกอยในน้ำยางสดแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลักๆคือ
ส่วนที่เป็นเนื้อยาง 35%
ส่วนที่ไม่ใช่ยาง 65%
ส่วนของน้ำ 55%
ส่วนของลูทอยด์ 10%
น้ำยางสดที่กรีดจากต้นยางจะมีสภาพเป็นของเหลวอยู่ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงเนื่องจากแบคทีเรียในอากาศและจากเปลือกของต้นยางที่ลงไปในน้ำยางและสารอาหารต่างๆในน้ำยางทำให้เกิดแบคทีเรีย แบคทีเรียจะค่อยๆย่อยสลายสารอาหารต่างๆทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออไซด์ ก๊าซมีเทน ทำให้น้ำยางเกิดการบูดเน่าส่งกลิ่นสามารถสังเกตได้จากตัวน้ำยางจะค่อยๆหนืดขึ้น
การนำน้ำยางไปใช้มีอยู่ 2รูปแบบ
1รูปแบบน้ำยาง
การใช้เครื่องเซนตริฟิวส์ ในขณะที่การเตรียมยางแห่งนั้นมักจะใช้วิธีการใส่กรอดอะซิติลงในน้ำยางสดทำให้ตัวเนื้อยางและน้ำเกิดการแยกชั้นกันระหว่างยางและน้ำ วิธีนี้จะได้น้ำยางที่คงรูปได้นาน
น้ำยางเข้มข้นไม่ผ่านการดัดแปลงคือไม่ผ่านกระบวนการใดๆที่ทำให้โมเลกุลของยางเปลี่ยนแปลงแต่อายุการเป็นของเหลวจะคงสภาพไว้ไม่เกิน6ชั่วโมงเท่านั้น
2รูปแบบยางแห้ง
การใช้วิธีรมควันยางเพื่อให้ยางโดยความร้อนและเกิดการแข็งตัวจากนั้นนำไปตากแดดเพื่อให้คงรูปแบบของยางแห้งยางแห้งจะคงสภาพอยู่ได้นานแต่หากทิ้งไว้นานเกิดเมื่อนำมาใช้ต้องผ่านกระบวนการทำความสะอาด
ยางแท่งกระบวนการจะคล้ายกับการลมควันแต่ยางแท่งจะมีมาตรฐานรองรับคุณภาพของยางตามที่ประเทศนั้นๆกำหนดอีกทั้งราคายังถูกกว่ายางแผ่นลมควันอีกมาก
ยางแบบอื่นๆ ที่จะมีวิธีการผลิตหรือสูตรเฉพาะของแต่ละผลิตภัณฑ์ชนิดใดชินดหนึ่งหรือเติมส่วนผสมสารเคมีต่างๆเข้าไปเพื่อให้ได้รูปแบบยางที่ต้องการได้แก่ ยางเทอร์โทพลาสติก ยางอิพอกซิไดซ์ ยางผง ยางเหลวเป็นต้น
Comments